for all
well-being

Whizdom banner

REGISTER FORM

REGISTER FORM

‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’อภิมหาโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดในไทยเดินหน้าก่อสร้างทุกโครงการพร้อมกัน คาดแล้วเสร็จต้นปี 2567

Ir-news
2 years ago
  • MQDC
  • /
  • Well-Being
  • /
  • ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’อภิมหาโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดในไทยเดินหน้าก่อสร้างทุกโครงการพร้อมกัน คาดแล้วเสร็จต้นปี 2567
‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’อภิมหาโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดในไทยเดินหน้าก่อสร้างทุกโครงการพร้อมกัน คาดแล้วเสร็จต้นปี 2567

“เดอะ ฟอเรสเทียส์’ (The Forestias By MQDC) โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับ world class ที่ใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาท เป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติ เพื่อการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ มีขนาดพื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ซึ่งนับว่าเป็นประตูสู่โครงการระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก และยังถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ณ ขณะนี้

‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’อภิมหาโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดในไทยเดินหน้าก่อสร้างทุกโครงการพร้อมกัน คาดแล้วเสร็จต้นปี 2567

“เดอะ ฟอเรสเทียส์” (The Forestias By MQDC) โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับ world class ที่ใหญ่ที่สุดด้วยมูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาท เป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติ เพื่อการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ มีขนาดพื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ซึ่งนับว่าเป็นประตูสู่โครงการระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก และยังถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ณ ขณะนี้

‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์วิสซ์ดอมและมัลเบอร์รี โกรฟ ที่อยู่อาศัยแบรนด์มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า ดิ แอสเพน ทรี และซิกส์เซนส์ รวมถึงโรงแรมแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ Family Center และ Town Center สำหรับกิจกรรมของชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น โรงละคร อีเวนต์ฮอลล์ และตลาด

Forestias 02Forestias 03

 

‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ เดินหน้าก่อสร้างทุกโครงการพร้อมกัน โดยไม่มีโครงการใดทำแบบนี้มาก่อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีพ.ศ. 2567   

ความผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและธรรมชาติที่ลงตัว

Forestias 18

‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ เป็นโครงการแรกที่หลอมรวมผืนป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ ให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ โดยต้นไม้ทุกต้นเริ่มปลูกตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า เพื่อความหลากหลายและ���พิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศ เพราะ “ผืนป่า” คือหัวใจสำคัญของโครงการ และยังเป็นส่วนที่เปิดให้ศึกษาระบบนิเวศ ซึ่งมีรายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆในป่า

“ผืนป่า” ที่โครงการเป็นป่าที่มีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์บริเวณกลางป่าลึกเป็นพื้นที่เฉพาะให้สัตว์อยู่อาศัยได้โดยไม่ถูกรบกวน มีส่วนที่เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปศึกษาธรรมชาติ และมีระบบการป้องกันน้ำท่วมโดยเฉพาะ ประกอบด้วยพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่ รองรับกักเก็บน้ำฝนได้มากถึง 10,000 คิว ป้องกันไม่ให้โครงการเกิดน้ำท่วม แม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่

“ผืนป่า” จะทำหน้าที่เป็น “ปอดสีเขียว” ให้แก่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ และชุมชนโดยรอบ ส่งผลต่อความเย็นและอุณหภูมิในแต่ละวันของพื้นที่ ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติมีความเป็นมิตรต่อโลกผ่านระบบพลังงานที่ล้ำสมัย ทำให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมหาศาลหรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 30,000 ไร่ ที่จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ทางโครงการได้ดำเนินการปลูกต้นไม้บริเวณรอบถนนในโครงการ โดยส่วน North Plot ได้ทำการปลูกต้นไม้แล้วเสร็จ 100% ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและเป็นต้นไม้เดิมที่เคยอยู่บริเวณบางนาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศได้ทำการศึกษาแล้วพบว่ามีความเหมาะสมกับดินในบริเวณโครงการ สำหรับพันธุ์ไม้ที่นำมาปลูกจะเป็นกล้าไม้ที่เพาะจากเมล็ดและแบบไม้ยืนต้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นไม่เกิน 8 นิ้ว เช่น ต้นพะยอม หรือไม้พุ่ม เช่น ต้นกาหลง และไม้คลุมดิน เช่น ต้นอ่อมแซ่บ เป็นต้น

Forestias 13

โครงการได้ติดตั้งระบบงานต่าง ๆ ไว้ในอุโมงค์ที่อยู่ใต้ถนนภายในโครงการ เพื่อทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา ปัจจุบันดำเนินการติดตั้งท่อส่งน้ำเย็นแล้วเสร็จ 100% โดยท่อนี้จะทำการส่งน้ำเย็นที่อุณหภูมิ 5.5 องศาเซลเซียส เพื่อแจกจ่ายให้กับทุกยูนิตในโครงการทั้งส่วนที่พักอาศัย โรงแรม และศูนย์การค้า อีกทั้งทางโครงการยังติดตั้งท่อดับเพลิงภายในอุโมงค์แล้วเสร็จ 100% ซึ่งเป็นท่อดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน NFPA สามารถกระจายน้ำผ่านหัวจ่ายน้ำได้รอบโครงการและครอบคลุมไปถึงพื้นที่ในป่า และเป็นโครงการเดียวในประเทศไทยที่ใช้ระบบนี้ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบระบายอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัย (กล้อง CCTV) แล้วเสร็จ 100% รวมถึงอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งระบบป้องกันน้ำท่วมภายในอุโมงค์ ระบบป้องกันการเกิดไฟไหม้ และระบบอินเตอร์เน็ต (wifi) อีกด้วย 

Forestias 04

ภายในโครงการยังมี Canopy Walk หรือทางเดินเท้ายกระดับความยาว 1.6 กิโลเมตรที่มีความสูงอยู่ในระดับยอดของต้นไม้ เพื่อใช้ศึกษาธรรมชาติ เป็นทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างโครงการ แบ่งเป็น 2 เส้นทางได้แก่ เส้นทางแรกเชื่อมต่อจากส่วน Community & Family Center และ Town Center ไปยังอาคาร Forest Pavilion และเส้นทางที่สองคือเส้นทาง Private เป็นเส้นทางเดินส่วนตัวเฉพาะลูกบ้าน เพื่อเดินเชื่อมถึงกันระหว่างอาคาร Forest Pavilion โครงการวิสซ์ดอม โครงการมัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า และโครงการดิ แอสเพน ทรี คอนโดมิเนียม และโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งสามารถเดินได้ตลอดเวลาและมีความปลอดภัยสูง โดยภาพรวมดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 90%

Forestias 06

นอกจากนี้ยังมีทางเดินเท้าในผืนป่าที่รองรับรถพยาบาลรวมถึงการใช้งานรถเข็นได้อย่างสะดวก ทางเดินหลักยกเหนือพื้นดินขึ้นมา 30 เซนติเมตร เพื่อเป็นทางเดินให้กับสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น มด หอยทากโดยเฉพาะ ส่วนทางเดินรองปูด้วยวัสดุ Decompose Granit และ Hard Wood Mulch เพื่อให้เป็นทางเดินที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติอย่างแท้จริงเพราะมีการ recycle ด้วยการใช้กิ่งไม้ใบไม้ที่ร่วงแล้วนำมาปูเป็นทางเดิน นอกจากนี้ระหว่างทางยังสามารถแวะพักชมน้ำตกที่เด็ก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับศึกษาระบบนิเวศได้อีกด้วย

 โครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว

Forestias 07

วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์

ประกอบด้วย 3 อาคาร โดย Destinia และ Mytopia จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคู่รัก ครอบครัวที่มีลูกเล็ก และPetopia เป็นการออกแบบอาคารสำหรับกลุ่มคนที่รักและชื่นชอบสัตว์เลี้ยง โดยวิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ออกแบบทุกองค์ประกอบ เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตแบบองค์รวม รวมถึงการนำไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองมาผสมผสานกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ผ่านพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้ครอบครัวและสัตว์เลี้ยงตัวโปรดได้สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกๆ วัน

Forestias 09Forestias 10

ปัจจุบันการก่อสร้างอาคาร Destinia และ Mytopia มีความคืบหน้าประมาณ 11.43% งานโครงสร้างชั้นใต้ดินได้ดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ในส่วนอาคาร Petopia คืบหน้าประมาณ 7.52% ซึ่งมีทำการจัดจ้างผู้รับเหมาไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

  

Forestias 17Forestias 08

มัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์

โครงการบนพื้นที่กว่า 42 ไร่ด้วยวิวผืนป่าอันเขียวชอุ่มประกอบไปด้วยวิลล่าสุดหรู 37 หลัง และคอนโดมิเนียมแบบ low-rise จำนวน 269 ห้อง (ตั้งแต่ขนาด 1-4 ห้องนอน) ทุกมิติของโครงการถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับทุกความต้องการของคนทุกช่วงวัย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกครอบครัว

Forestias 11

ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการมัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่ามีความคืบหน้าประมาณ 40% ของพื้นที่ก่อสร้างบ้านตัวอย่าง จำนวน 8 หลัง รวมถึงพื้นที่คลับเฮ้าส์

ส่วนภาพรวมแผนการก่อสร้างโครงการ มัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม เร็วกว่าที่วางไว้ 0.60% โดยการก่อสร้างงานโครงสร้างอยู่ที่ประมาณ 18%

Forestias 15

ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์

ดิ แอสเพน ทรี ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักอาศัยธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นบ้านที่สามารถอยู่ไปได้ตลอดชีวิตภายใต้แนวคิด Age-in-Place ที่เชื่อว่าผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านและสังคมของตนเองได้อย่างอิสระ พร้อมสิ่งอำนวยสะดวกสบายไว้รองรับการอยู่อาศัยอย่างครบครันไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่หรือความจำเป็นด้านสุขภาพอย่างไร เพราะโครงการใส่ใจความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตของคุณ ตั้งแต่การวางรากฐานไปสู่การออกแบบที่พร้อมดูแลทั้งชีวิตแบบองค์รวม โดยไม่ต้องโยกย้ายออกจากบ้านในภายหน้า

Forestias 19

ปัจจุบันมีความคืบหน้าของงานก่อสร้างโดยรวมประมาณ 7.15%

Forestias 16

ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์

ที่สุดของวิลล่าเหนือระดับจำนวน 27 หลัง ที่บริหารและจัดการโดย Six Senses แบรนด์เซอร์วิส ระดับโลก โครงการถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสาย และสีสันแห่งธรรมชาติ ผสานแนวทางของแบรนด์ Six Senses โดยออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติภายนอก และมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ภายในที่มีระบบหมุนเวียนอากาศที่โปร่งสบายเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบ และสวนสีเขียว นอกจากนี้ยังสามารถผ่อนคลายไปกับบริการสุดพิเศษที่ทรงคุณค่าในแบบ ซิกส์เซนส์ โฮเทลส์ รีสอร์ทส์ สปาส์ ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงโครงการอีกด้วย

Forestias 12

ปัจจุบันมีความคืบหน้าของงานก่อสร้างโดยรวมประมาณ 4.16%

 

ทั้งหมดนี้คืออีกก้าวสำคัญของ MQDC ที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะหลังวิกฤติ COVID-19 ที่ผู้คนจะให้ความสำคัญในการดำเนินชีวิตมากขึ้นทั้งในแง่สุขภาพกายและสุขภาพใจ เราตั้งใจพัฒนา ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ให้เป็น “เมืองคู่ป่า” แห่งแรกในโลกที่นำคน สัตว์ และธรรมชาติมาอยู่ร่วมกันและพึ่งพาอาศัยกันภายใต้ระบบนิเวศที่สมบูรณ์อย่างลงตัว